มนุษย์ รอ vs มนุษย์ ลุย
เมื่อคน 2 ประเภทเริ่มธุรกิจร้านอาหารพร้อมกัน
คุณลองอ่านเรื่องรวมด้านล่างแล้วลองศึกษา
ถึงความแตกต่างของกำไรและความอยู่รอด
.
ร้านแรก เปิดขายชาบู ด้านหน้าอาคารสำนักงาน
เจ้าของใส่ใจเรื่องเมนูอาหารที่แตกต่าง ความสด
รสชาติ และให้พนักงานต้อนรับไปยื่นหน้าร้าน
#และนี้เป็นคำถามที่เจ้าของคอยถามพนักงาน
"วันนี้ได้กี่คนแล้ว อืม10 คนหรอ คงจะปลายเดือน"
"วันนี้ได้กี่คนแล้ว 20 คนหรอ อืมร้านเราเพิ่งเปิด"
"วันนี้ได้กี่คนแล้ว 15 คนหรอ คงเพราะช่วงนี้ฝนตก"
"ทำไมทำป้ายโฆษณาไปแล้วไม่ค่อยได้ผลเลย"
.
ร้านที่สอง เปิดขายชาบู ด้านหลังอาคารสำนักงาน
เจ้านี้มีนำจิ้มสูตรเด็ดจากคุณแม่ มีพ่อครัวไว้ใจได้
เรื่องการเตรียมอาหาร และมีพนักงานต้อนรับยื่นหน้าร้าน
#และนี้เป็นคำถามที่เจ้าของคอยถามพนักงาน
"เราจะทำให้ลูกค้ารู้ว่าร้านเราอร่อยได้อย่างไร"
"เราะจะทำให้ลูกค้ากินแล้วไปบอกต่อได้อย่งไร"
"เราต้องช่วยกันทำให้มีลูกค้าอย่างน้อย 80 คน/วัน"
"นอกเหนือจากป้ายโฆษณา สื่ออะไรที่มีผลอีกบ้าง"
.
ไม่ต้องบอกว่าร้านไหนเป็นมนุษย์ รอ หรือ ลุย
.
จากตัวอย่างเราเห็นอะไรบ้าง??
- การรู้เป้าหมายยอดขายต่อวัน จะส่งผลต่อกิจการ
- การ "ยอมรับในความน้อย" ทำให้กิจการไม่มีกำไร
- เน้นคุณภาพอาหารเป็นสิ่งดี เน้นการตลาดเป็นสิ่งจำเป็น
.
ภาษาที่เจ้าของกิจการใช้คิด และสื่อสารในทีมงาน
มีผลต่อการทำกำไรของกิจการมากนะคะ
.
ด้วยรัก และหวังดี ^^
ครูอัส
เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเด็กบัญชี
ผู้เชียวชาญด้านการใช้ภาษาสมอง NLP